เล่าหลังเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0
เล่าหลังเกม คู่ยักษ์ในศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ (Premier League) โดยระหว่าง อาร์เซน่อล (Arsenal F.C.) กับ แมนฯ ยูไนเต็ด (Manchester United F.C.) โดยคู่นี้สกอร์ได้จบลงที่การเสมอกัน 0-0 ซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายได้แบ่งแต้มกันไปทีมละหนึ่งแต้ม โดยที่อันดับของแมนยู ตอนนี้อยู่ลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นรองแมนซิตี้อยู่ 3 คะแนน และ อาร์เซนอล อยู่อันดับที่ 9 มีคะแนนอยู่ที่ 31 แต้ม ซึ่งเป็นรองจากแมนยู อยู่ถึง 10 แต้มด้วยกัน เราไปดูประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้กัน
- ลิโอเนล เมสซี ถูกเสนอรายชื่อ เข้าคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ไร้ชื่อนักแตะดาวดังโรนัลโด้
- โปรแกรมบอลวันนี้ วันที่ 17/10/64
- ไทเลอร์ มอร์ตัน เผยความรู้สึก หลังลงสนาม กับ ลิเวอร์พูลครั้งแรก
- ลิเวอร์พูล เปิดรายชื่อ 11 นักเตะ เยือนทีมวัตฟอร์ด อาทิตย์นี้
- โซลชาร์ รีบคิดแผนใหม่ หลังเซ็นเตอร์ ได้รับบาดเจ็บ จากการแข่งล่าสุด
เล่าหลังเกม ประเด็นหลังเกมอาร์เซนอล กับ แมนยู
1. ชาก้า ตัวสำคัญประกบ บรูโน-แรชฟอร์ด
กรานิท ชาก้า (Granit Xhaka) ซึ่งได้รับหน้าที่เป็นมิดฟิลด์คู่หูของ โธมัส ปาร์เตย์ (Thomas Partey) ที่ตำแหน่งแดนกลางโดยการยืนตำแหน่งเยื้องมาที่ฮาล์ฟสเปซฝั่งซ้าย ซึ่งจะคอยคุมพื้นที่ระหว่าง ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลัง กับ เซดริก โซอาเรส โดยเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เกมรับของ อาร์เซนอลนั้น สามารถเกะกะและลดพิ้นที่ช่องว่างของการเล่นไม่ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ บรูโน เฟอร์นันเดส ได้ทำเกมรุกได้อย่างถนัดตามใจชอบเท่าไหร่
2. มาร์ติเนลลี ถูกเก็บโดย วาน-บิสซาก้า
กองหน้าหนุ่มชาว บราซิลเลี่ยน ได้ทำหน้าที่ฝั่งซ้ายในแนวรุกของอาร์เซนอล โดยดวลกับ อารอน วาน-บิสซาก้า โดยตรงแต่เห็นได้ชัดว่า กาเบรียล มาร์ติเนลลี ไม่สามารถเอาชนะกับความแข็งแกร่งของฟูลแบ็ค อารอน วาน-บิสซาก้า คนนี้ได้ จนทำให้เกมรุกที่กราบซ้ายของอาร์เซนอล ในครึ่งแรกหายไป ก่อนที่เค้าจะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามภายหลังจบพักครึ่ง 45 นาที แต่อย่างไรก็ตามนั่น วิลเลียน ตัวจี๊ดของทางฝั่ง อาร์เซนอล ที่ลงสนามมาแทนก็ไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมรุกได้เช่นเดียวกันนั่นเอง
3. นิโกลาส์ เปเป้ คนสำคัญในแนวรุกปืนใหญ่
ในเมื่อแนวรุกฝั่งซ้ายไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างที่ต้องการได้แล้ว ก็กลายเป้น นิโกลาส์ เปเป้ ที่กราบขวากลายเป็นตัวสำคัญในเกมรุกหลายต่อหลายครั้งให้กับปืนใหญ่ อาร์เซนอล จนเจ้าตัวก็เกือบจะทำประตูได้เช่นกันหากสามารถจบสกอร์ได้คมกว่านี้อีกนิดนึง โดยตัวรุกริมเส้นทีมชาติชาว ไอวอรี โคสต์ ออกจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสถิติ เรียกฟาวล์ได้มากที่สุด (4 ครั้ง), สับไกยิงมากที่สุด (4 ครั้ง) และจ่ายบอลให้เพื่อนได้สับไกมาก ที่สุด (3 ครั้ง)
4. วาน-บิซซาก้า ท็อปฟอร์ม เข้าตากรรมการ
โดยเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในเกมนี้ คือแบ็คขวาของทีมแมนยู โดยสามารถเค้นโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยที่เรียกว่าปิดตายเกมรุกด้านซ้ายของทาง อาร์เซนอล ได้อย่างอยู่หมัด ด้วยสถิติแย่งบอลคืนมาได้ 10 หน เข้าปะทะ 4 และ เคลียร์บอลอีก 4
5. แรชฟอร์ด ปีกขวาที่ไม่ถนัดนัก
ยามเมื่อ แรชฟอร์ด ลงเล่นในตำแหน่งริมเส้นด้ายซ้ายที่ถนัด แรชฟอร์ด จะสามารถสร้างความอันตรายและหวาดเสีย ให้กับแนวรับคู่แข่งได้อยู่ตลอดบ่อยครั้ง ด้วยความที่เจ้าตัวความรวดเร็วและการจบสกอร์ที่ค่อนข้างเฉียบขาด ก่อนที่ฟอร์มการเล่นของเขาจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในฤดูกาลนี้ เมื่อต้องถูกโยกมาเล่นด้านขวาอยู่บ่อยๆ เพื่อเปิดทางให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง คาวานี และ มาร์กซิยาล เขาเลี้ยงบอลไปได้ทิศทางเดียวเพื่อพยายามให้ใช้เท้าข้างที่ถนัดยิงประตูได้ ซึ่งก็มักจะโดนดักทางได้อยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับการตัดสินใจในจังหวะเข้าได้เข้าเข็มไม่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาดสักเท่าไหร่ ว่าจะยิงหรือจ่ายดี ทำให้การเล่นนั้นไม่เป็นไปตามที่ต้องการซักเท่าไหร่
บทสรุปของทั้ง 2 ทีม
เลยเป็นการแบ่งคนละแต้มไปนั่น เพราะเนื่องจากทั้งสองทีม มีโอกาสในการทำประตูเท่าๆกัน แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้เท่านั้นเอง เนื่องจากอาจจะไม่เข้าจังหวะในการทำประตูสักเท่าไหร่ และ ไม่มีความคมมากพอ ของทั้งสองทีมนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ sanook.com